Woo Hah!!! I got you all in check!!!!! |
ลูกเล่นทางเสียงในวงการแร็ปมีมานานมาก ตั้งแต่เพลงแร็ปยุคแรกๆ อย่างเช่น Sugarhill Gang มีการใช้น้ำเสียงทุ้มๆเหมือนแมวในเรื่อง The Cat in the Hat (ซึ่งก็พบบ่อยในท่อนพูดของเพลงวง P-Funk เช่นเดียวกัน) ลากยาวจนมาถึงวง Public Enemy ที่ยังคงใช้น้ำเสียงเดิม แต่ความไหลลื่นของโฟลว์มีมากขึ้น -- เพลงแร็ปในอัลบั้มแรกของ Massive Attack (เพลง Daydreaming, Five Man Army, Eurochild, Karmacoma และ Blue Line) ก็ใช้เพียงน้ำเสียงที่สุขุม (สุขุมกว่า 21 Savage ด้วยซ้ำ) ทว่าความแปลกใหม่นั้น กลับมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะหลุดโลกได้ขนาดนั้น
วง Fu-Schnicken มีเพลงเด่นคือ La Schmoove |
ในปี 1992 วงการแร็ปเริ่มสั่นสะเทือนด้วยน้ำเสียงของวง Fu-Schnicken เมื่อหนึ่งในสมาชิก Chip-Fu ได้ผสมผสานแร็ปเร็วเข้ากับสำเนียงจาไมกัน ผสมกับเนื้อเพลงที่ยากต่อการแปล!!?!, และปี 1993 วง Onyx เปิดตัวด้วยเพลงสั้นๆ Bacdafucup ด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และวันดีคืนดี Busta Rhymes ในวัยละอ่อนสมัยยังอยู่ในวง Leader of The New School ก็เหมือนจะโดนสัตว์ประหลาดเข้าสิง แร็ปด้วยน้ำเสียงเหมือนจะฉีกเนื้อคนเป็นชิ้นๆ ในเพลง What's Next ขโมยซีนสมาชิกในวงไปเต็มๆ (แต่ไม่ชอบตอนพี่แกไปขโมยซีนตอนแสดงสดกลางรายการขณะคนอื่นแร็ป เสียมารยาทสัสๆ เป็นสมาชิกในวงผมก็โมโห) แต่ความแปลกในน้ำเสียงของบัสต้าก็ยังไม่มากเท่าหลังจากออกอัลบั้มแรก
แต่น้ำเสียงดังกล่าว ก็ชวนให้ขนลุกจนสามารถนำไปต่อยอดได้อีก Grymreaper หรือ Too Poetic หนึ่งในสมาชิกสายแร็ปสยองขวัญ Gravediggaz ก็ลากเสียงออกมาเพี้ยนจนหลุดแพทเทิร์นเพลงแร็ปทั่วไป หลอนแต่บันเทิงอย่างไม่ต้องสงสัย (แนะนำให้ฟังเพลง Graveyard Chamber ท่อนแรกดู) ขโมยซีนสมาชิกในวงไปเต็มๆ
จนแล้วจนรอด แร็ปเปอร์เสียงแปลกได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นกระแสหลักมากขึ้น เมื่อสไตล์การแร็ปเร็วที่ผสมผสานกับอาร์แอนด์บีหลอนๆในเพลง Thuggish Ruggish Bone ของ Bone Thug-N-Harmony แต่นั่นก็เป็นต้นแบบที่ดีให้กับแร็ปเปอร์ยุค 90 ตอนปลายมากมายอย่างเช่น Crucial Conflict ที่หลอมรวมแร็ปเร็วเข้ากับสไตล์คาวบอย (แนะนำเพลง Scummy และ Hay) หรือแร็ปเร็วสายกระโชกก้าวร้าว เดี๋ยวนุ่มนวลเดี๋ยวดุดันอย่าง Mystikal (แนะนำเพลง Y'all Ain't Ready Yet กับ Beware) หรือแม้แต่แร็ปเปอร์สายแร็ปเร็วที่สุขุมนุ่มลึกขึ้น มีลูกเล่นในการรัวลิ้นอย่าง Tech N9ne ที่มาสายนั้นตั้งแต่ยังไม่ออกอัลบั้มแรกด้วยซ้ำ (แนะนำเพลง Questions ท่อนแรก แล้วคุณจะต้องทึ่ง!!!!! เป็นเพลงประกอบซาวด์แทร็กเรื่อง Gang Related ในปี 1997!!!!) ส่วนคนรุ่นใหม่ก็แนะนำ Worldwide Chopper ล่ะมั้งนะ ถ้าไม่ต้องการลองอะไรใหม่ๆ
ยังไม่หมดแค่นั้น!!!!!!!!
Slim Shady แร็ปเปอร์ที่แร็ปกวนประสาท(เวลาเมาวอดก้า) 5555+ |
สไตล์การแร็ปเหมือนพากย์เสียงการ์ตูนของ Eminem ยุคแรกๆก็เป็นที่จดจำเช่นเดียวกัน (Hi! Kid, Do you like Primus 555+) -- ลูกเล่นสไตล์การแร็ปเหมือนโดนไฟช็อตของ Sillk the Shocker ก็หลุดแพทเทิร์นในการกำหนดคำในแต่ละบาร์ สร้างความแปลกใหม่ให้กับสาย Gangsta Rap เช่นเดียวกัน หรือแม้แต่การแร็ปด้วยเสียงตัวตลกของ Insane Clown Posse ในอัลบั้มแรกๆ ตั้งแต่อัลบั้ม Riddlebox จนถึง Bizaar/Bizzar วงการแร็ปสร้างความหลากหลายได้มากขนาดนั้นได้ยังไงก็ยังแปลกใจ ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมากขึ้น ไล่เรียงเป็นลิสต์ได้เลยทีเดียว นับเป็นลูกเล่นที่ดึงดูดคนฟังได้ตั้งแต่แรกพบได้ชะงัดทีเดียว แต่คิดว่าต้องใช้ความพยายามพอสมควร หากแป้กก็อาจจะไม่รุ่งเอาได้ (เหมือนท่อนของ Big Scoop ในเพลง Show And Prove ของ Big Daddy Kane)
ปัจจุบันแร็ปสายเล่นเสียงแปลกๆเริ่มมีมากขึ้น เปรี้ยงปร้างจริงๆก็ปี 2016 แร็ปเปอร์ที่แจ้งเกิดจากเว็บ Soundcloud เริ่มรวมใจกันแร็ปตะโกนโดยไม่ได้นัดหมาย (หลักๆก็ XXXTentacion) จนกลายเป็นของธรรมดาไปแล้ว ที่แปลกใหม่จริงๆก็มี Die Antwoord, Death Grips (ไอ้วงนี้ก็แร็ปตะโกนเหมือนกัน แต่หลุดโลกกว่า) แต่ก็ตามนั้น ได้ฟังจนชินไปแล้ว ไม่ตื่นใจเท่ายุค 90 ที่นานทีจะมีซักคน
ยังไงก็ตามแต่ อยากให้ลองฟังเพลงที่ผมได้แนะนำไปนะครับ วงการแร็ปยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหาให้เราได้สัมผัสกับมัน ไม่มากก็น้อย อยากรู้ว่าจะแปลกได้อีกซักแค่ไหน 55555+
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น